ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในผลผลิตทางการเกษตรที่จะต้องมีมาตรฐานรองรับที่แสดงถึงคุณภาพและความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน GAP มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น หากสินค้าเกษตรมีการรับรองมาตรฐานเหล่านี้ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้ ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านการควบคุมคุณภาพผลผลิต เท่านั้น แต่ยังเป็นผลดีต่อเกษตรกรในด้านสุขภาพอนามัยของผู้ผลิตเองด้วย ดังนั้นเกษตรกรจึงหันมาให้ความสำคัญกับการขอการรับรองมาตรฐาน GAP มากขึ้น กอปรกับคู่ค้า ผู้รับซื้อ และตลาดต้องการสินค้าเกษตรที่มีมาตรฐานรับรอง จึงเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แต่เกษตรกรบางส่วนยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรฐาน GAP หรือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี จึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกรให้มากขึ้น นายสุพิท จิตรภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันภาคใต้มีเกษตรกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP แล้ว จำนวน 35,929 ราย ซึ่งถือว่ายังมีจำนวนน้อย ตามภารกิจแล้ว กรมส่งเสริมการเกษตรทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่เกษตรกร และกรมวิชาการเกษตรจะเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยตรวจให้การรับรอง ดังนั้นเพื่อให้เกษตรกรพัฒนาสินค้าให้เข้าสู่มาตรฐาน GAP ให้มากขึ้น จึงได้ร่วมกันสร้างการรับรู้ และเร่งพัฒนาเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ให้พร้อมเป็นที่ปรึกษาและตรวจประเมินแปลงเบื้องต้นตามข้อกำหนด ก่อนการ ยื่นขอตรวจรับรองจริงโดยกรมวิชาการเกษตร ในปี 2564 ภาคใต้มีเกษตรกรเป้าหมายการตรวจประเมินแปลงเบื้องต้น จำนวนทั้งสิ้น 3,299 ราย สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา จึงได้จัดอบรมหลักสูตร “การเป็นที่ปรึกษาเกษตรกร และเป็นวิทยากรด้านมาตรฐาน GAP” ในระหว่างวันที่ 12-14 มกราคม 2564 ณ โรงแรมนิภาการ์เด้น จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้แก่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรใน 14 จังหวัดภาคใต้ ทั้งระดับจังหวัด และอำเภอ จำนวน 100 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องไปปฏิบัติงานกับเกษตรกรในพื้นที่โดยตรง ในการอบรมประกอบด้วยเนื้อหาภาคบรรยายและการฝึกปฏิบัติในพื้นที่จริง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจและสามารถนำไปใช้ส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ได้ ต่อไปCr: ประชาสัมพันธ์ สสก.5 29 มกราคม 2564